การเรียนการสอน

โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ มุ่งเน้นที่จะยึดเด็กเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการเรียนการสอน (Child Center) โดยมีปรัชญาของ เรกจิโอ เอมีเลีย (Reggio Emilia) เป็นหลักสำคัญในการมองเด็กอย่างเข้าใจ และเป็นหลักในการออกแบบกระบวนการของการเรียนการสอน ในห้องเรียน และภายใต้ปรัชญาของ เรกจิโอ เอมีเลียนั้น ทางโรงเรียนก็ได้นำนวัตกรรม หลักการ หลักสูตร และแนวคิดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น Project Approach, Brain Based Learning, Multiple Intelligence (พหุปัญญา), Integration, Whole Language ฯลฯ

 

ดังนั้นหลักสูตรของโรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ซึ่งได้สั่งสมมาจากประสบการณ์การ สอน และการเป็น โรงเรียนนำร่องของ สมศ. กระทรวงศึกษาธิการ ตลอด 20 ปีเต็ม จึงมีเอกลักษณ์ที่ทำให้เด็กทุกคนเป็นคนที่รู้จักขวนขวายหาความรู้ มีทักษะความสามารถเฉพาะตัว ช่างคิด กล้าแสดงออก ในบริบทของวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และที่สำคัญ มีทัศนคติที่ดีและมีความสุขกับการเรียน

ผู้นำนวัตกรรมการศึกษา

ผู้นำนวัตกรรมการศึกษา ความมุ่งมั่นตลอด 20 ปีของโรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ และความมุ่งมั่นจากผู้บริหาร ทำให้โรงเรียนได้รับคัดเลือกจากหน่วยงานของรัฐและเอกชนให้เป็นทั้งโรงเรียน นำร่อง โรงเรียนแกนนำ และโรงเรียนต้นแบบ เพื่อนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้และประยุกต์ให้เข้ากับบริบทสังคมไทย และที่สำคัญเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับโรงเรียน และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศไทย

  • พ.ศ. 2542 – โรงเรียนนำร่องในโครงการวิจัยนวัตกรรมการศึกษาตามแนวคิด “เรกจิโอ เอมิเลีย” โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
  • พ.ศ. 2545 - โรงเรียนแกนนำในโครงการวิจัย “หลักสูตรสถานศึกษาและการพัฒนารูปแบบการคิด ในระดับการศึกษาปฐมวัย”
    โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ศ.2547 – โรงเรียนแกนนำในโครงการวิจัยเรื่อง “กระบวนการคิด” โดย สภาการศึกษา (สกศ.) กระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ศ. 2548 – โรงเรียนนำร่อง หัวข้อ “สมองกับการเรียนรู้” (Brain-Based Learning : BBL) กับสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา
  • พ.ศ. 2550 - โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ ได้ผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา ด้วยระดับดีมากในทุกมาตรฐานและตัวบ่งชี้

จากการนำแนวคิด การจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัย การผสมผสานอย่างกลมกลืน โรงเรียนจึงได้รับการยกย่องให้เป็น ผู้นำทางการศึกษา มีสถาบันทางการศึกษามากมายรวมถึง มหาวิทยาลัย สถาบันราชภัฏต่างๆ ได้นำนิสิต นักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทมาศึกษา ดูงานจากโรงเรียนของเรา

การที่โรงเรียนได้รับการไว้วางใจจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ให้เป็นแกนนำในนวัตกรรมการศึกษาต่างๆ นั้น ทำให้ในปัจจุบันโรงเรียน สามารถนำนวัตกรรมที่ทันสมัยการผสมผสานกับบริบท สังคมและวัฒนธรรมของไทยอย่างกลมกลืน โรงเรียนจึงได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้นำทางการศึกษา” เป็นที่ยอมรับ และเป็นแหล่งเรียนรู้ ดูงานของนิสิต นักศึกษา สถาบันทางการศึกษา นักวิชาการและนักการศึกษาด้านการศึกษาปฐมวัย

และผลจากการได้เป็นโรงเรียนนำร่อง ทำให้โรงเรียนได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสุขของเด็กและคุณครูที่มีการ พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน โรงเรียนจึงยึดหลักการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดเรกจิโอ เอมิเลีย เข้ามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมชุมชน และความเป็นไทยเพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในทุก ๆ ด้านทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปรัชญาเรกจิโอ เอมิเลีย

ตามปรัชญาของ เรกจิโอ เอมิเลียนั้น เราจะมองว่าเด็กแต่ละคนเต็มไปด้วยพลังและความสามารถตั้งแต่แรกเกิด และมุ่งหวังที่จะเป็นคนเก่งและคนดี เด็กมีวิถีของการเรียนรู้เป็นไปตามระยะ ของพัฒนาการในแต่ละวัย เด็กมีความสามารถที่จะแสดงออกในทิศทางเพื่อที่จะสัมพันธ์และสื่อสารกับผู้ อื่นรวมถึงสิ่งต่างๆ รอบตัว

หลักการและกระบวนการ ของ แนวคิดเรกจิโอ เอมิเลีย

  1. ครูกับเด็กเรียนรู้ร่วมกัน
    ครูจะให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้มากกว่าการสอน การเรียนรู้ที่มีคุณค่าสำหรับเด็กจึงไม่ใช่การสอนจากครู ที่เป็นการบอกเล่าโดยตรง แต่เป็นการจัดสถานการณ์ให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ครูจะเป็นนักศึกษา ค้นคว้า วิจัย เป็นนักสำรวจและตระเวนเก็บข้อมูลจากทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเป็นประสบการณ์นำไป โยงสู่การจัดกิจกรรมที่ให้เด็กได้เรียนรู้ เด็กและครูจะเรียนรู้ไปด้วยกันในการหาคำตอบจากสิ่งที่สงสัย เรียนรู้ร่วมกันจากการค้นหาข้อมูลความรู้เพื่อจะตอบคำถามที่เด็กสงสัยใคร่รู้
  2. โครงการเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ
    กิจกรรมการสอนที่ชัดเจน แต่จะรวมรายชื่อหัวข้อโครงการที่เป็นความสนใจของเด็ก อย่างไรก็ตามกิจกรรมโครงการในห้องเรียนจะปรับเปลี่ยนไปตามความสนใจของเด็ก ได้ สภาพการณ์ในการจัดกิจกรรมจะลื่นไหลไปตามสภาวการณ์ที่สนองต่อความสนใจของเด็ก ในขณะนั้น

  3. ตารางกิจกรรมประจำวันและการจัดการในชั้นเรียน
    ครูจะเปิดโอกาสให้เด็กเป็นผู้กำหนดตารางเวลาในการวางแผนการทำกิจกรรมและการ ทำงานโครงการ ตารางเวลาจะมีความยืดหยุ่นสภาพในห้องเรียนจะมีมุมต่างๆ เช่น มุมศิลปะ มุมบล็อก มุมหนังสือ มุมอุปกรณ์ในการเล่นเงา มุมบ้าน มุมแต่งตัว เป็นต้น ในโรงเรียนจะมีห้องหรือบริเวณที่จัดเป็นที่ทำกิจกรรมศิลปะซึ่งจะเต็มไปด้วย วัสดุและอุปกรณ์ ครูจะยึดถือว่าผลงานที่เด็กสื่ออกมาโดยวิธีต่างๆ นั้นเป็นการสะท้อน กระบวนการคิด การแก้ปัญหา ความเข้าใจ ตลอดจนการตีความหมายของสิ่งที่เด็กสัมผัสและเรียนรู้
      
  4. การบันทึกข้อมูลสาระการเรียน
    ครูจะดูเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเก็บข้อมูลเด็กในทุกด้านที่เด็กเรียนรู้และแสดงออกเมื่ออยู่ที่ โรงเรียน ครูและผู้ปกครองจะประชุมพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอการบันทึกข้อมูลจะครอบคลุม ถึงกิจกรรมทุกด้าน โดยเฉพาะตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการที่เด็กมีการเรียนรู้อย่างลุ่มลึก ด้วยการใช้เทปบันทึกเสียง ใช้กล้องถ่ายภาพ กล้องถ่ายวีดีโอ และการจดบันทึก
  5. การแสดงผลงานเด็ก
    ครูและเด็กจะร่วมมือกันจัดแสดงผลงานของเด็กที่สื่อออกมาโดยการปั้น การวาด การเขียน การพูด การประดิษฐ์ผลงานสองมิติ หรือสามมิติ การเล่นละคร ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสะท้อนให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญในบทบาทของตนเอง ในการมีส่วนร่วมที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ในเด็ก อีกทั้งผลงานเด็กยังทำให้ครูเข้าใจเด็กดีขึ้น ตัวเด็กเองยังได้รับรู้ว่าผู้ใหญ่มองเห็นคุณค่าในงานของตนอีกด้วย

 

ภาพเด็กในใจครู

ที่โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ เรายึดถือแนวคิดเรกจิโอ เอมิเลียที่เชื่อว่า "เด็กเกิดมาพร้อมความฝันและจินตนาการ"

“ ที่โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์จะรับฟังความคิดของเด็กๆ ด้วยความตั้งใจ และจะเชื่อมโยงความคิด จินตนาการ ของเด็กๆ โดยการจัดสภาพแวดล้อม กิจกรรม และ ร่วมกันจัดทำโครงงานที่เด็กๆ สนใจ เพื่อส่งเสริมและ พัฒนาความคิด จินตนาการเพิ่มขึ้น ”

เด็กเกิดมาพร้อมพลัง และความสามารถในตัวเอง

“ เราจัดบรรยากาศ กิจกรรมที่หลากหลายให้เด็กได้เลือก ได้คิดและตัดสินใจในการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดกับเพื่อนๆ ด้วยตนเอง ”

 

เด็กเกิดมาพร้อมความกระหายใคร่รู้

“ กิจกรรมที่โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์จะกระตุ้นให้เด็ก เกิดความกระหายใคร่รู้ และได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง อย่างอิสระภายใต้ การสนับสนุนของคุณครู และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ”

เด็กเกิดมาพร้อมความปรารถนาที่จะเป็นคนดี

“ อนุบาลมณีรัตน์จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณธรรม – จริยธรรม และพัฒนาความรู้สึกภาคภูมิใจความรู้สึก ที่ดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ”

 

 

เด็กคือ ความงดงามที่เกิดขึ้นบนโลก

“ เราจะส่งเสริมความรัก ความอบอุ่นระหว่างครู และเพื่อนๆในห้องเรียนและในโรงเรียนส่งเสริม ความผูกพันธ์ภายในครอบครัวให้ความสำคัญกับ บทบาทของพ่อ แม่ และสถาบันครอบครัว ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้พ่อแม่ลูกได้ทำ กิจกรรม ร่วมกัน ”

 

การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

“ เราเชื่อว่าการเรียนรู้ของเด็กๆ จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งในและนอกห้องเรียน ดังนั้นเราจึงจัดสภาพห้องและ บรรยากาศในโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ และค้นคว้าได้ตลอดเวลา”

© Copyright 2011 by All Rights Reserved www.maneerut.com | Site Map